ค้นหาข้อสอบ ในเว็บไซต์แห่งนี้

Friday, November 20, 2009

แนวข้อสอบหลักสูตรและการจัดการศึกษาระดับปฐมวัย

ข้อสอบครูชำนาญการพิเศษ ข้อสอบครูชำนาญการพิเศษ,สอบครูชำนาญการพิเศษ

แนวข้อสอบหลักสูตรและการจัดการศึกษาระดับปฐมวัย
แนวข้อสอบหลักสูตรและการจัดการศึกษาระดับปฐมวัย
………………………………
1. ปรัชญาการศึกษาปฐมวัย ข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก. การศึกษาปฐมวัยเป็นการพัฒนาเด็กตั้งแต่แรกเกิดถึง 3 ปี บนพื้นฐานการอบรมเลี้ยงดูและการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ตามศักยภาพ
ข. การศึกษาปฐมวัยเป็นการพัฒนาเด็กตั้งแต่แรกเกิดถึง 4 ปี บนพื้นฐานการอบรมเลี้ยงดูและการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ตามศักยภาพ
ค. การศึกษาปฐมวัยเป็นการพัฒนาเด็กตั้งแต่แรกเกิดถึง 5 ปี บนพื้นฐานการอบรมเลี้ยงดูและการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ตามศักยภาพ
ง. การศึกษาปฐมวัยเป็นการพัฒนาเด็กตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 ปี บนพื้นฐานการอบรมเลี้ยงดูและการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ตามศักยภาพ
2. มาตรฐานการศึกษาปฐมวัยเพื่อการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา ประกาศใช้เมื่อใด
ก. 15 พฤศจิกายน 2548 ข. 16 พฤศจิกายน 2548
ค. 15 พฤศจิกายน 2549 ง. 16 พฤศจิกายน 2549
3. มาตรฐานการศึกษาปฐมวัยมีกี่ด้าน
ก. 2 ด้าน ข. 3 ด้าน ค. 4 ด้าน ง. 5 ด้าน
4. ข้อใดไม่ใช่มาตรฐานการศึกษาปฐมวัย
ก. มาตรฐานคุณภาพด้านผู้เรียน ข. มาตรฐานด้านครู
ค. มาตรฐานด้านผู้บริหาร ง. มาตรฐานด้านการพัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้
5. มาตรฐานการศึกษาปฐมวัยมีกี่มาตรฐานและกี่ตัวบ่งชี้
ก. 18 มาตรฐาน 80 ตัวบ่งชี้ ข. 18 มาตรฐาน 82 ตัวบ่งชี้
ค. 19 มาตรฐาน 80 ตัวบ่งชี้ ง. 19 มาตรฐาน 82 ตัวบ่งชี้
6. หลักการของการจัดการศึกษาปฐมวัยมีกี่ข้อ
ก. 3 ข้อ ข. 4 ข้อ ค. 5 ข้อ ง. 6 ข้อ
7. เป็นการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานระดับแรกเพื่อวางรากฐานชีวิตของเด็กไทยให้เจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์มีพัฒนาการเต็มวัยอย่างสมบูรณ์ทุกด้าน บนพื้นฐานความสามารถและความแตกต่าง คำกล่าวนี้หมายถึงข้อใดของการจัดการศึกษาปฐมวัย
ก. หลักการ ข. อุดมการณ์ ค. จุดมุ่งหมาย ง. วิสัยทัศน์
8. ข้อใดไม่ใช่หลักการของการจัดการศึกษาปฐมวัย
ก. หลักความร่วมมือ ข. หลักการพัฒนาเด็กโดยองค์รวม
ค. หลักการจัดประสบการณ์ที่ยึดเด็กเป็นสำคัญ
ง. หลักความสามาความสามารถและความแตกต่างระหว่างบุคคล


9. เด็กปฐมวัย หมายถึงข้อใด
ก. เด็กตั้งแต่แรกเกิด ถึง 5 ปีบริบูรณ์
ข. เด็กตั้งแต่แรกเกิด ถึง 6 ปีบริบูรณ์
ค. เด็กตั้งแต่แรกเกิด ถึง 5 ปี 11 เดือน 29 วัน
ง. เด็กตั้งแต่แรกเกิด ถึง 5 ปี 11 เดือน 30 วัน
10. เด็กเกิดเดือนมกราคม พ.ศ. 2552 จะเข้าเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 ในปีการศึกษาใด
ก. 2554 ข. 2555 ค. 2556 ง. 2557
11. หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย ประกาศใช้เมื่อใด
ก. 1 เมษายน 2545 ข. 2 เมษายน 2545
ค. 1 เมษายน 2546 ง. 2 เมษายน 2546
12. หลักสูตรการศึกษาปฐมวัยใช้จัดการศึกษาสำหรับเด็กในข้อใด
ก. เด็กอายุแรกเกิดถึง 3 ปี ข. เด็กอายุแรกเกิดถึง 5 ปี
ค. เด็กอายุ 3-5 ปี ง. เด็กอายุ 3-6 ปี
13. ข้อใดเป็นปรัชญาการศึกษาปฐมวัย
ก. เป็นการพัฒนาเด็กตั้งแต่แรกเกิดถึง 5 ปี
ข. บนพื้นฐานการอบรมเลี้ยงดูและการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ที่สนองตามธรรมชาติและพัฒนาการของเด็กแต่ละคนตามศักยภาพ ภายใต้บริบทสังคมวัฒนธรรมที่เด็กอาศัยอยู่ ด้วยความรักความเอื้ออาทรและความเข้าใจของทุกคน
ค. เพื่อสร้างรากฐานคุณภาพชีวิตให้เด็กพัฒนาไปสู่ความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ เกิดคุณค่าต่อตนเองและสังคม
ง. ถูกทุกข้อ
14. ข้อใดคือจุดหมายของหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี
ก. มุ่งส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคมและสติปัญญาที่เหมาะสมกับวัย ความสามารถ ความสนใจ และความแตกต่างระหว่างบุคคล
ข. พัฒนาเด็กโดยองค์รวมผ่านการเล่นและกิจกรรมที่เหมาะสมกับวัย
ค. จัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้สามารถดำรงชีวิตประจำวันได้อย่างมีคุณภาพและมีความสุข
ง. ประสานความร่วมมือระหว่างครอบครัว ชุมชนและสถานศึกษาในการพัฒนาเด็ก
15. คุณลักษณะที่พึงประสงค์ ข้อใดสำคัญที่สุด
ก. ร่างกายเจริญเติบโตตามวัยและมีสุขภาพดี
ข. ใช้อวัยวะของร่างกายได้อย่างคล่องแคล่วประสานสัมพันธ์กัน
ค. มีความสุขและแสดงออกทางอารมณ์ได้เหมาะสมกับวัย
ง. รับรู้และสร้างปฏิสัมพันธ์กับบุคลและสิ่งแวดล้อมรอบตัว

16. คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี มีทั้งหมดกี่ข้อ
ก. 4 ข้อ ข. 5 ข้อ ค. 6 ข้อ ง. 7 ข้อ

17. สบตาจ้องหน้าแม่ ยิ้มได้ เป็นพัฒนาการตามวัยด้านใด
ก. พัฒนาการด้านร่างกาย ข. พัฒนาด้านอารมณ์และจิตใจ
ค. พัฒนาการด้านสังคม ง. พัฒนาการด้านสติปัญญา
18. ส่งเสียงอ้อแอ้ พยายามทำเสียงต่างๆในลำคอ เป็นพัฒนาการด้านใด
ก. พัฒนาการด้านร่างกาย ข. พัฒนาด้านอารมณ์และจิตใจ
ค. พัฒนาการด้านสังคม ง. พัฒนาการด้านสติปัญญา
19. นั่งได้โดยพ่อแม่ต้องประคอง เป็นพัฒนาการด้านใด
ก. พัฒนาการด้านร่างกาย ข. พัฒนาด้านอารมณ์และจิตใจ
ค. พัฒนาการด้านสังคม ง. พัฒนาการด้านสติปัญญา
20. เริ่มกลัวคนแปลกหน้า เป็นพัฒนาการด้านใด
ก. ก. พัฒนาการด้านร่างกาย ข. พัฒนาด้านอารมณ์และจิตใจ
ค. พัฒนาการด้านสังคม ง. พัฒนาการด้านสติปัญญา
21. เริ่มประโยคำถามว่า อะไร เป็นพัฒนาการด้านใด
ก. พัฒนาการด้านร่างกาย ข. พัฒนาด้านอารมณ์และจิตใจ
ค. พัฒนาการด้านสังคม ง. พัฒนาการด้านสติปัญญา
22. สาระการเรียนรู้มีกี่สาระ
ก. 1 สาระ ข. 2 สาระ ค. 3 สาระ ง. 4 สาระ
23. ข้อใดไม่ใช่สาระการเรียนรู้
ก. สาระที่ควรรู้ ข. ประสบการณ์ที่สำคัญ
ค. แนวการจัดประสบการณ์ ง. ถูกทุกข้อ
24. สาระที่ควรรู้ ข้อใดถูกต้อง
ก. เรื่องราวเกี่ยวกับตัวเด็ก ข. ธรรมชาติรอบตัวและสิ่งต่างๆรอบตัว
ค. เรื่องราวเกี่ยวกับบุคคลและสถานที่แวดล้อม ง. ถูกทุกข้อ
25. การจัดกิจกรรมประจำวันข้อใดถูกต้อง
ก. สอดคล้องกับความต้องการ ความสนใจ และความสามารถของเด็ก
ข. มีความสำคัญยิ่งต่อการวางรากฐานการเรียนรู้และพัฒนาทักษะพื้นฐาน
ค. บูรณาการผ่านการอบรมเลี้ยงดูตามวิถีชีวิตประจำวันและการเล่นที่เหมาะสมกับวัย
ง. ถูกทุกข้อ



26. ข้อใดถูกต้องเกี่ยวกับหลักการประเมินพัฒนาการของเด็ก
ก. บันทึกพัฒนาการลงในสมุดบันทึกสุขภาพแม่และเด็กของกรมอนามัย
ข. ประเมินด้วยวิธีการที่หลากหลาย ครอบคลุมการสังเกตพฤติกรรมของเด็ก
ค. ประเมินพัฒนาการของเด็กครบทุกด้านโดยประเมินเป็นรายบุคคลอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง
ง. ถูกทุกข้อ
27. สมองของเด็กมีการเจริญเติบโตและพัฒนาอย่างรวดเร็ว ช่วงของชีวิตที่สำคัญที่สุดคือช่วงใด
ก. แรกเกิดถึง 5 ปี ข. แรกเกิดถึง 6 ปี
ค. ช่วง 3 ปีแรกของชีวิต ง. ช่วงปฐมวัย
28. การจัดการศึกษาในลักษณะการอบรมเลี้ยงดูและให้การศึกษา เด็กจะได้รับการพัฒนาทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคมและสติปัญญาตามวัย และความสามารถของแต่ละบุคคล เป็นการศึกษาสำหรับเด็กกลุ่มใด
ก. ต่ำกว่า 3 ปี ข. 3-5 ปี ค. 0-5 ปี ง. 3-6 ปี
29. มุ่งให้เด็กมีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคมและสติปัญญาที่เหมาะสมกับวัย อยู่ในส่วนใดของหลักสูตร
ก. หลักการ ข. จุดหมาย ค. คุณลักษณะตามวัย ง. คุณลักษณะที่พึงประสงค์
30. ชื่นชมและแสดงออกทางศิลปะ ดนตรี การเคลื่อนไหวและรักการออกกำลังกาย อยู่ในส่วนใดของหลักสูตร ก. หลักการ ข. จุดหมาย ค. คุณลักษณะตามวัย ง. คุณลักษณะที่พึงประสงค์
31. รับประทานอาหารได้ด้วยตนเอง เป็นพัฒนาการตามวัยด้านใดของเด็กอายุ 3 ปี
ก. พัฒนาการด้านร่างกาย ข. พัฒนาด้านอารมณ์และจิตใจ
ค. พัฒนาการด้านสังคม ง. พัฒนาการด้านสติปัญญา
32. เขียนรูปวงกลมตามแบบได้ เป็นพัฒนาการตามวัยด้านใดของเด็กอายุ 3 ปี
ก. พัฒนาการด้านร่างกาย ข. พัฒนาด้านอารมณ์และจิตใจ
ค. พัฒนาการด้านสังคม ง. พัฒนาการด้านสติปัญญา
33. สนใจนิทานและเรื่องราวต่างๆ เป็นพัฒนาการตามวัยด้านใดของเด็กอายุ 3 ปี
ก. พัฒนาการด้านร่างกาย ข. พัฒนาด้านอารมณ์และจิตใจ
ค. พัฒนาการด้านสังคม ง. พัฒนาการด้านสติปัญญา
34. ตัดกระดาษเป็นรูปเส้นตรงได้ เป็นพัฒนาการตามวัยด้านใดของเด็กอายุ 4 ปี
ก. พัฒนาการด้านร่างกาย ข. พัฒนาด้านอารมณ์และจิตใจ
ค. พัฒนาการด้านสังคม ง. พัฒนาการด้านสติปัญญา
35. รู้จักชื่นชมความสามารถและผลงานของผู้อื่น เป็นพัฒนาการตามวัยด้านใดของเด็กอายุ 4 ปี
ก. พัฒนาการด้านร่างกาย ข. พัฒนาด้านอารมณ์และจิตใจ
ค. พัฒนาการด้านสังคม ง. พัฒนาการด้านสติปัญญา



36. รู้จักแบ่งของให้คนอื่น เป็นพัฒนาการตามวัยด้านใดของเด็กอายุ 4 ปี
ก. พัฒนาการด้านร่างกาย ข. พัฒนาด้านอารมณ์และจิตใจ
ค. พัฒนาการด้านสังคม ง. พัฒนาการด้านสติปัญญา
37. บอกชื่อและนามสกุลของตนเองได้ เป็นพัฒนาการตามวัยด้านใดของเด็กอายุ 4 ปี
ก. พัฒนาการด้านร่างกาย ข. พัฒนาด้านอารมณ์และจิตใจ
ค. พัฒนาการด้านสังคม ง. พัฒนาการด้านสติปัญญา
38. เขียนรูปสามเหลี่ยมตามแบบได้ เป็นพัฒนาการตามวัยด้านใดของเด็กอายุ 5 ปี
ก. พัฒนาการด้านร่างกาย ข. พัฒนาด้านอารมณ์และจิตใจ
ค. พัฒนาการด้านสังคม ง. พัฒนาการด้านสติปัญญา
39. มีความรับผิดชอบต่องานที่มอบหมาย เป็นพัฒนาการตามวัยด้านใดของเด็กอายุ 5 ปี
ก. พัฒนาการด้านร่างกาย ข. พัฒนาด้านอารมณ์และจิตใจ
ค. พัฒนาการด้านสังคม ง. พัฒนาการด้านสติปัญญา
40. รู้จักใช้คำถามว่า ทำไม / อย่างไร เป็นพัฒนาการตามวัยด้านใดของเด็กอายุ 5 ปี
ก. พัฒนาการด้านร่างกาย ข. พัฒนาด้านอารมณ์และจิตใจ
ค. พัฒนาการด้านสังคม ง. พัฒนาการด้านสติปัญญา
41. การรักษาความปลอดภัย อยู่ในประสบการณ์สำคัญที่ส่งเสริมพัฒนาการด้านใด
ก. พัฒนาการด้านร่างกาย ข. พัฒนาด้านอารมณ์และจิตใจ
ค. พัฒนาการด้านสังคม ง. พัฒนาการด้านสติปัญญา
42. ดนตรี สุนทรียภาพ การเล่น คุณธรรม จริยธรรม อยู่ในประสบการณ์สำคัญที่ส่งเสริมพัฒนาการด้านใด
ก. พัฒนาการด้านร่างกาย ข. พัฒนาด้านอารมณ์และจิตใจ
ค. พัฒนาการด้านสังคม ง. พัฒนาการด้านสติปัญญา
43. การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเคารพความคิดเห็นของผู้อื่น อยู่ในประสบการณ์สำคัญที่ส่งเสริมพัฒนาการด้านใด
ก. พัฒนาการด้านร่างกาย ข. พัฒนาด้านอารมณ์และจิตใจ
ค. พัฒนาการด้านสังคม ง. พัฒนาการด้านสติปัญญา
44. การคิด การใช้ภาษา การสังเกต การจำแนก การเปรียบเทียบ จำนวน มิติและเวลา อยู่ในประสบการณ์สำคัญที่ส่งเสริมพัฒนาการด้านใด
ก. พัฒนาการด้านร่างกาย ข. พัฒนาด้านอารมณ์และจิตใจ
ค. พัฒนาการด้านสังคม ง. พัฒนาการด้านสติปัญญา
45. ข้อใดสำคัญที่สุดในสาระที่ควรรู้
ก. เรื่องราวเกี่ยวกับตัวเด็ก ข. เรื่องราวเกี่ยวกับบุคคลและสถานที่แวดล้อมเด็ก
ค. ธรรมชาติรอบตัว ง. สิ่งต่างๆรอบตัวเด็ก


46. การจัดประสบการณ์สำหรับเด็กอายุ 3 – 5 ปี จัดในรูปแบบใด
ก. จัดเป็นรายวิชา ข. จัดในรูปแบบสหวิชาผ่านการเล่น
ค. เรียนด้วยการฏิบัติ ง. จัดในรูปแบบกิจกรรมบูรณาการผ่านการเล่น
47. หลักการจัดประสบการณ์ ข้อใดสำคัญที่สุด
ก. การเล่นและเรียนรู้เพื่อพัฒนาเด็กโดยองค์รวมอย่างต่อเนื่อง
ข. เน้นเด็กเป็นสำคัญ สนองความต้องการ ความสนใจและความแตกต่าง
ค. จัดให้เด็กได้รับการพัฒนาโดยให้ความสำคัญทั้งกับกระบวนการและผลผลิต
ง. ให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการพัฒนาเด็ก
48. การจัดมวลประสบการณ์สำหรับเด็กปฐมวัย ควรคำนึงถึงข้อใดเป็นอันดับแรกสุด
ก. สอดคล้องกับจิตวิทยาพัฒนาการ
ข. สอดคล้องกับจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
ค. สอดคล้องกับลักษณะการเรียนรู้ของวัย
ง. จัดประสบการณ์ในรูปแบบบูรณาการ
49. การจัดมวลประสบการณ์หรือกิจกรรมที่ต้องใช้ความคิด ทั้งในกลุ่มเล็กและกลุ่มใหญ่ ควรใช้เวลาในการจัดกิจกรรมประมาณเท่าใด
ก. ไม่ควรเกิน 15 นาที ข. เวลาประมาณ 20 – 30 นาที
ค. ไม่ควรใช้เวลาต่อเนื่องนานเกินกว่า 20 นาที ง. ใช้เวลาประมาณ 40 – 60 นาที
50. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับการประเมินพัฒนาการเด็กอายุ 3 – 5 ปี
ก. เพื่อนำข้อมูลมาปรับปรุงพัฒนา วางแผนการจัดกิจกรรม
ข. เป็นส่วนหนึ่งของการจัดกิจกรรมในแต่ละวัน
ค. เพื่อประเมินพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคมและสติปัญญา
ง. ถูกทุกข้อ


…………………………….













เฉลย

เติมตังค์มือถือ 0844714186 เท่าไหร่ก็ได้
แล้วโทรบอก เราจะลิงค์เฉลยให้ท่าน

No comments:

Post a Comment

ได้ข้อมูลแล้ว ก็ช่วยกันคอมเม้นด้วยนะค่ะ